สำรวจกลิ่นหอมที่บานสะพรั่งของ Orange Blossom

ดอกส้มเป็นส่วนผสมของน้ำหอมที่เปี่ยมด้วยความโรแมนติกและมีมิติของกลิ่นหอมที่แสนสดชื่น ไร้เดียงสากว่าดอกกุหลาบ แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดใจและเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเจ้าสาวทั่วโลกมากพอๆ กันมานานหลายศตวรรษ เป็นกลิ่นฟลอรัลบางเบาที่ละมุนละไมและอ่อนหวาน ทั้งชวนให้หลงใหล ชวนให้นึกถึงการมองโลกในแง่ดี และเป็นมหัศจรรย์แห่งความรักที่น่าปรารถนา ทั้งยังสื่อถึงความอ่อนเยาว์และสดใส เป็นสัมผัสที่อบอุ่นและหอมหวานดั่งน้ำผึ้งที่ช่วยเพิ่มประกายความสดใสให้กับช่อดอกไม้สีขาว

โดยทั่วไปกลิ่นหอมนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อสื่อถึงความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากดอกไม้สามารถปรากฏขึ้นได้พร้อมกันกับผลไม้ โดยในครั้งแรกดอกไม้นี้ถูกนำมาพันประดับเส้นผมและตกแต่งช่อดอกไม้ของเจ้าสาวผู้เขินอายในธรรมเนียมจีนโบราณ รวมทั้งในอินเดียและเปอร์เซีย แม้กระทั่งอัศวินผู้เหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้ของสงครามครูเสดก็ตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของดอกส้ม มันถูกนำกลับมาจากดินแดนอันห่างไกลเพื่อมอบให้แด่หญิงคนรักของพวกเขา และจะเป็นดอกไม้ที่ครองใจชาวยุโรปที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งหลุมรักตลอดไป ดอกส้มนี้อาจจะมีขนาดเล็ก แต่มันกลับมีพลังและสามารถเติมเต็มคริสตจักรให้อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ทอประกายระยิบระยับ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะหวั่นไหวไปกับความรู้สึกที่แสนโรแมนติกเกี่ยวกับดอกไม้ชนิดนี้

แม้แต่ราชินีก็ยังทรงละทิ้งเพชรน้ำเอกเพียงเพื่อที่จะได้ใช้มัน สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงโปรดที่จะสวมมงกุฏที่ทำจากดอกส้มแทนมงกุฏเพชรในงานแต่งงานของพระองค์กับเจ้าชายอัลเบิร์ตในปี 1840 และเพียงหนึ่งศตวรรษต่อมาสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็ได้ทรงปักดอกส้มไว้ที่ชายกระโปรงชุดอภิเษกสมรสของพระองค์ นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกผลิบานและงดงามอ่อนหวานเช่นเดียวกับดอกไม้

ที่ Jo Malone London เราจะกุมมือกันและเอ่ยคำสัตย์ว่าเราตกหลุมรัก Orange Blossom อย่างถอนตัวไม่ขึ้น นี่คือความสัมพันธ์ที่มุ่งมั่นในระยะยาว และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราใช้กลิ่นหอมที่ผลิบานและเป็นประกายนี้ในผลิตภัณฑ์มากมาย ทั้ง Body Crème, เทียนหอม และโคโลญจน์ เพราะไม่ว่าใครก็ไม่ควรตีกรอบให้กับความรัก และเมื่อคุณพบ The One นั้นแล้ว คุณจะต้องการให้โลกทั้งโลกได้รับรู้ Orange Blossom...น้ำหอมที่ทำให้หลงรักตั้งแต่แรกพบ….