ผลมะเดื่อเปล่งปลั่ง ฉ่ำน้ำและน่ารับประทานเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ 'ผลไม้ของเหล่าทวยเทพ' และมีเรื่องราวที่เก่าแก่มายาวนาน มะเดื่อมีบทบาทสำคัญในเรื่องราว บทกวี และภาพเขียนในอารยธรรมต่างๆ มาเป็นเวลานาน โดยกล่าวกันว่าต้นมะเดื่อเป็นต้นไม้ที่ได้ถูกปลูกไว้เก่าแก่ยาวนานที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลแห่งการให้ผลผลิตของมันนั้นช่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ ลึกซึ้ง และเข้มข้น ราวกับไข่มุกรสฉ่ำในใจกลางขุมสมบัติของธรรมชาติที่น้อยคนนักจะต้านทานได้

เดิมทีต้นมะเดื่อถูกปลูกในภูมิภาคเอเชียไมเนอร์เมื่อประมาณ 9,400 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งทั้งร้อนและแห้งแล้ง เชื่อกันว่ามะเดื่อเป็นพืชที่มนุษย์ปลูกเองได้สำเร็จเป็นชนิดแรก มะเดื่อเป็นสมาชิกในตระกูลหม่อนและเป็นไม้ดอก แต่ดอกของมันจะเติบโตอย่างลับๆ อยู่ภายในผลที่เรียกว่าไซโคเนียม ความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซับซ้อนนี้เป็นอีกเหตุผลในความมหัศจรรย์ของมัน ต้นไม้ชนิดนี้มีความลึกลับมากพอที่จะทำให้พระพุทธเจ้าค้นพบเส้นทางแห่งการตรัสรู้ที่ใต้กิ่งของมัน ซึ่งเป็นกิ่งที่คาดว่าจักรพรรดิของธิดาแห่งอินเดียได้อัญเชิญไปยังศรีลังกา และถูกนำไปขยายพันธุ์ต่อเมื่อ 288 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งในปัจจุบันมะเดื่อต้นนี้ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ นับว่าเป็นต้นไม้ปลูกที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ในตำนานเทพเจ้ากรีกที่หลายคนหลงใหลในเสียงไซเรนอันโด่งดัง เทพเจ้าอพอลโลได้เสกขนอีกาจากสีขาวบริสุทธิ์ให้กลายเป็นสีดำ เพื่อลงโทษมันที่ทำเรื่องโง่เง่าที่ข้างต้นหรือข้างผลมะเดื่อสุก ในขณะที่นำน้ำดื่มมาให้เขา นอกจากนี้ก็ยังเชื่อกันว่าอเล็กซานเดอร์มหาราชได้ลี้ภัยจากความร้อนใต้ดินมายังต้นมะเดื่อขนาดใหญ่ในตอนที่พระองค์เดินทางมาถึงอินเดียเมื่อ 326 ปีก่อนคริสตกาล และแน่นอนว่าต้นมะเดื่อของเรายังได้ถูกปลูกไว้ในสวนลอยในตำนานสิ่งอัศจรรย์อันไพศาลอีกด้วย ในสวนขั้นบันไดที่ติดกับพระราชวังที่ร่มรื่นไปด้วยไม้ผล บนทางเดินที่ร่มรื่นและลำธารที่เย็นฉ่ำชวนพิศแห่งนั้น เชื่อกันว่าต้นมะเดื่อเจริญเติบโตอยู่บนผืนดินที่อุดมสมบรูณ์และมีสายน้ำกระเซ็นซ่าน บริเวณนั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยลูกมะเดื่อที่อวบอิ่มชวนลิ้ม และมีดอกบัวที่งดงามล้ำค่าขึ้นอยู่ข้างๆ

เราได้จับคู่ผลมะเดื่อที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและชุ่มฉ่ำเข้ากับดอกบัวที่หอมหวานและกระจ่างใสราวกับคริสตัล เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ที่กระเซ็นซ่านเข้ามาอย่างสง่างาม สะท้อนถึงเสน่ห์ของสิ่งมหัศจรรย์เก่าแก่ของโลก ที่ซึ่งองค์กษัตริย์ได้เนรมิตสรรสร้างขึ้นเพื่อเป็นของกำนัลแด่ราชินีผู้เป็นที่รัก และเป็นตำนานความรักอันอมตะที่สะท้อนผ่านกาลเวลามาถึงปัจจุบัน